Work From Home ใครว่าเราจะเปรี้ยวไม่ได้ ! ถึงร้านส่วนมากจะปิดเพราะโควิดแต่ความชิคก็ยังสร้างได้ด้วยตัวเองค่ะ คนส่วนมากอยู่บ้านนาน ๆ อาจจะรู้สึกเบื่อ จึงเริ่มอยากเปลี่ยนลุคด้วยการทำสีผมกัน ซึ่งหลายคนเริ่มจะย้อมผมด้วยตัวเองกันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ข้อดีของการทำสีผมด้วยตัวเองนั้น นอกจากจะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว เราก็มีโอกาสได้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้ เพราะหากเราไปร้านทำผม เราไม่สามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ได้ อีกทั้งอาจเกิดโอกาสระคายเคืองหากใช้แล้วไม่ถูกกับสภาพหนังศีรษะอีกด้วย

หากคุณตัดสินใจว่าจะลงมือทำด้วยตัวเองแล้วล่ะก็ ควรเริ่มศึกษาตัวผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับไอเดียผมที่เราอยากได้ ซึ่งผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันพอสมควร บทความนี้จึงจะมาแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เราได้ใช้จริงมาตลอด จะมีจุดเด่นอย่างไร เหมาะกับการทำสีผมแบบไหน มาลองดูไปพร้อมกันเลยค่ะ !

1. DCASH Bleaching Powder Lightener

ทำสีผม Bleaching Powder Lightener

สำหรับ DCASH ตัวนี้เป็นผงฟอกหรือกัดสีผมให้อ่อนลง มาในรูปแบบของผงฟอกและไฮโดรเจนพร้อมผสมค่ะ มี 4 สูตรด้วยกัน คือสีทอง (Gold), สีเทา (Grey), สีแดง (Red) และสีขาว (White) ให้เลือกใช้ตามความต้องการ การกัดสีผมช่วยให้ให้ผลลัพธ์การทำสีชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการทำสีที่ค่อนข้างอ่อนหรือสีแฟชั่นแนวสดใส

เวลาใช้ให้สวมถุงมือและทำขณะผมแห้ง เริ่มจากการผสมผงฟอกกับไฮโดรเจนให้เข้ากัน จัดแบ่งผมเป็นช่อและค่อย ๆ ใช้แปรงทาผลิตภัณฑ์ลงบนผมในบริเวณที่ต้องการฟอกโดยเว้นช่วงโคนผมประมาณ 1 cm เนื่องจากการฟอกสีผมเป็นการใช้เคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนจึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดค่ะ

2. Color Wax Dipso

Color Wax Dipso

แวกซ์สีผมคือยาย้อมผมกึ่งถาวร ซึ่งจะเข้าไปทำการเคลือบเส้นผมจนเกิดเป็นสีที่เราต้องการ และเนื่องจากการย้อมประเภทนี้เป็นการเคลือบสีผมจึงทำให้ผมดูไม่แห้งเสียและเงางาม เหมาะสำหรับการย้อมสีแฟชั่นสดใสมากกว่าสีธรรมชาติทั่วไป แต่สีจะค่อย ๆ หลุดลอกไปเรื่อย ๆ ตามความถี่ในการสระผม ผู้ย้อมสามารถเติมได้หลายครั้งตามความต้องการค่ะ

การใช้แวกซ์นั้นจะมีความคล้ายกับยาย้อมผมชนิดอื่น ๆ คือควรใช้ตอนผมแห้งหลังจากสระผมให้สะอาด แล้วจึงชโลมแวกซ์ให้ทั่วในส่วนที่ต้องการ หมักไว้ประมาณ 20 – 40 นาทีแล้วจึงล้างออก เหมาะสำหรับคนที่อยากทำสีสด ๆ หรือทำสีผมแบบชั่วคราวเฉพาะโอกาส เพราะช่วยลดการทำร้ายผมไม่ให้เสีย โดยเฉพาะกับคนที่มีสภาพเส้นผมอ่อนแอค่ะ

3. โฟมเปลี่ยนสีผม Liese

Liese โฟมเปลี่ยนสีผม

ยาย้อมผมแบบถาวรจะมีความคงทนกว่ายาย้อมผมประเภทอื่น ๆ และต้องอาศัยความชำนาญมากกว่า แต่ไม่ใช่กับผลิตภัณฑ์ของ Liese ตัวนี้ที่ถูกออกแบบมาสำหรับคนที่อยากย้อมสีผมเองที่บ้านค่ะ ตัวผลิตภัณฑ์มีลักษณะเป็นเนื้อโฟม ช่วยให้สนุกกับการทำสีมากขึ้นเพราะยิ่งนวด สีก็ยิ่งกระจายและเกิดโฟมนิ่ม

เนื้อโฟมถูกออกแบบมาให้ผู้ใช้สามารถชโลมสีทั่วทั้งศีรษะได้อย่างง่าย ๆ แนบเนียน ดูเท่ากันสม่ำเสมอแม้ไม่ได้แบ่งช่อผม ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ทำให้ Liese Bubble Color เป็นยาย้อมผมที่เหมาะกับมือใหม่ย้อมเองครั้งแรกได้อย่างดีที่สุด แต่อาจไม่มีเฉดสีให้เลือกหลากหลายนักในตอนนี้ และค่อนข้างเน้นโทนสีธรรมชาติหรือโทนสุภาพมากกว่าค่ะ

4. Schwarzkopf Freshlight Foam Hair Color 

ผลิตภัณฑ์ทำสีผม Schwarzkopf Freshlight Foam Hair Color

 

Schwarzkopf ถือเป็นแบรนด์แรก ๆ ที่เราเริ่มทดลองใช้เพื่อย้อมสีผมเองค่ะ เพราะความที่ใช้งานได้ค่อนข้างสะดวก หาซื้อง่าย จึงเหมาะกับการใช้งานของทุกคนไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือคนที่โปรแล้ว ตัวผลิตภัณฑ์สามารถช่วยกระจายสีให้ดูสม่ำเสมอเท่ากันทั้งศีรษะ ทำให้สบายใจเรื่องปัญหาการด่างได้ กลิ่นหอมไม่ฉุน ลักษณะเนื้อเป็นแบบโฟมเช่นเดียวกับ Liese และโทนสีที่มีให้เลือกก็ยังคล้ายคลึงกัน ดังนั้นหากหาซื้อตัวใดตัวหนึ่งไม่ได้ ก็สามารถเลือกข้ามแบรนด์มาหาเบอร์ใกล้เคียงกันทดแทนก่อนก็ได้เช่นกันค่ะ

5. Berina Hair Color Cream

ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม Berina Hair Color Cream

ถ้าพูดถึงความหลากหลายและสีที่โดดเด่นไปจากโทนธรรมชาติ Berina เป็นยาย้อมผมถาวรที่มีสีให้เลือกเยอะและไม่ซ้ำเลย ในกล่องจะประกอบด้วยตัวครีมสีและไฮโดรเจน ปกติแล้วจะใช้งานตามคำแนะนำในกล่องก็ได้ แต่สำหรับเรา เราเลือกใช้วิธีพลิกแพลงเล็กน้อย ด้วยการใช้เฉพาะตัวครีมสีผสมกับคอนดิชั่นเนอร์หรือทรีตเมนต์เนื้อสีขาวแบรนด์ใดก็ได้ ก็จะให้ความรู้สึกเหมือนใช้แวกซ์สีผมค่ะ

การทำวิธีนี้ ถ้าผสมให้ทุกอย่างเข้ากันดี สีที่ได้จะสม่ำเสมอ แต่ถ้าเนื้อครีมไม่เข้ากันอาจทำให้เกิดสีด่างได้ เวลาใช้ควรสังเกตสีที่ผสมอย่างรอบคอบเพื่อให้ได้สีสวยตามต้องการ ความติดทนของสีอยู่ในมาตรฐานของยาย้อมผมถาวรปกติโดยอยู่ได้ประมาณ 1 – 2 เดือนค่ะ

 

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

By Admin 2